เมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาถึง เรามักจะได้พบเห็นละครหรือเหตุการณ์จำลองวันประสูติของพระเยซูกษัตริย์ของชาวยิว

เมื่อสังเกตจะพบว่าการประสูติของพระเยซูคริสต์นั้นได้มีประจักษ์พยานหลายคน ซึ่งได้แก่คนเลี้ยงแพะ และโหราจารย์ทั้ง 3 บ้างว่าเป็นกษัตริย์หรือเมไจ เป็นนักปราชญ์ หยั่งรู้ในเรื่องดาราศาตร์ และปรัชญา
ซึ่งเดินทางมาจากดินแดนทางตะวันออกของปาเลสไตน์ตามดวงดาวแห่งเบธเลเอมมา ด้วยความศรัทธาที่จะเข้าเฝ้าพระกุมาร และร่วมยินดีในการประสูติครั้งนี้ ได้ถวายเครื่องบรรณาการ 3 สิ่ง อันได้แก่ ทองคำ กำยาน และมดยอบ โดยทั้ง 3 สิ่งมีความหมาย ดังนี้
1. ทองคำ (Gold) เป็นธรรมเนียมของชาวเปอร์เซียที่ไม่อาจเข้าเฝ้ากษัตริย์ได้ถ้าปราศจากของขวัญ และทองคำเป็นของขวัญอันทรงคุณค่าคู่ควรต่อกษัตริย์ เท่ากับการยอมรับโดยดุษฎีว่า พระคริสต์กุมารนี้คือผู้บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ หากแต่เป็นกษัตริย์ที่ปกครองจิตใจมนุษย์บนบัลลังก์ไม้กางเขน และทรงพิชิตศัตรูด้วยความรักมิใช่กำลังทหาร
2. กำยาน (Frankincense) เป็นเรื่องปกติที่จะต้องนำ กำยาน และเครื่องหอม สำหรับการนมัสการพระเจ้ามาที่พระวิหาร และผู้ที่จะถวายเครื่องหอม และกำยานนี้ คือ ปุโรหิต (ซึ่งมาจากคำภาษาลาตินว่า pontifex ที่แปลว่า "สะพาน" หรือ "ผู้สร้างสะพาน" เพราะปุโรหิตเป็นผู้สร้างสะพานระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์) เท่ากับเป็นการยอมรับว่าพระกุมารเยซูนี้คือ ผู้ที่มาบังเกิดเป็นปุโรหิต ระหว่างโลกและสวรรค์ หรืออีกนัยหนึ่งคือ พระองค์บังเกิมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
3. มดยอบ (Myrrh) เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่จะชโลมศพด้วยมดยอบ เพื่อดับกลิ่นศพ และรักษาสภาพศพให้คงรูป เท่ากับเป็นการยอมรับว่า พระกุมารผู้มาประสูตินี้ มาเพื่ออยู่และตายไถ่บาปมวลมนษย์ในฐานะผู้ช่วยให้รอด และเป็นค่าไถ่บาป